นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวถึงภาพรวมการท่องเที่ยวของภูเก็ตที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตอย่างรุนแรง จากเดิมที่คิดว่าจะกระทบเฉพาะตลาดจีนเพียงตลาดเดียว แต่เมื่อการติดเชื้อได้แพร่กระจายไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศในยุโรป ซึ่งเป็นตลาดหลักทางการท่องเที่ยวของภูเก็ต ทำให้นักท่องเที่ยวภูเก็ตหายไปจำนวนมากในช่วงไฮซีซันของปีนี้ จากการสำรวจอัตราเข้าพักของโรงแรมต่างๆ ในภูเก็ต พบว่าอัตราเข้าพักโรงแรมในภูเก็ตในเดือนมีนาคมนี้เหลือเพียง 30% เท่านั้น ถ้าเป็นโรงแรมตามชายหาดอัตราเข้าพักจะอยู่ที่ 40% และโรงแรมในตัวเมืองและไม่ติดหาดจะอยู่ประมาณ 30% และยิ่งถ้าเป็นโรงแรมที่เปิดรับทัวร์จีนโดยเฉพาะแล้วอัตราเข้าพักเป็นศูนย์ ซึ่งในช่วงปกติของทุกปีที่ผ่านมา เดือนมีนาคมถือว่าเป็นช่วงไฮซีซันของภูเก็ตที่นักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก อัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งจังหวัดจะสูงถึง 60-70% และยิ่งถ้าเป็นโรงแรมตามหาดสำคัญๆ เช่น หาดป่าตอง อัตราเข้าพักจะอยู่ที่ 90%
“เมื่อไปดูบุ๊กกิ้งล่วงหน้าในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ปรากฏว่าการจองห้องพักในช่วงเดือนเมษายนมีอยู่แค่ 10% เท่านั้น และยิ่งในเดือน พ.ค.และ มิ.ย.นั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่มียอดจองห้องพักล่วงหน้าเข้ามาเลย ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากไวรัสโควิด-19 นั้นรุนแรงมาก เท่าที่ทราบในขณะนี้โรงแรมบางแห่งที่รับทัวร์จีนโดยเฉพาะประมาณ 6 แห่ง ได้ปิดกิจการชั่วคราวไปแล้ว” นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ กล่าวและว่า
ถึงขณะนี้พูดได้ว่า ผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ หมดตลาดที่จะทำแล้ว ทุกตลาดไม่เดินทางท่องเที่ยว อย่างยุโรปก็มีการแพร่ระบาดในหลายประเทศที่เป็นตลาดท่องเที่ยวของภูเก็ต เพราะนอกจากการแพร่ระบาดของไวรัสแล้ว มาตรการต่างๆ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจไม่เดินทาง ผู้ประกอบการจึงคุยกันว่าเราจะหยุดการทำตลาดไว้ก่อนในช่วงนี้ สิ่งที่ต้องทำมากที่สุดในขณะนี้คือการจัดการให้การแพร่ระบาดหมดไปในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ เมื่อถึงวันหนึ่งการแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นต้องปิดประเทศก็ต้องทำเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ โดยส่วนตัวเชื่อว่าผู้บริหารประเทศก็นั่งดูตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในขณะนี้ และมีแนวทางในการดำเนินการกับเรื่องนี้ และเชื่อในศักยภาพด้านสาธารณสุขของไทยติดอันดับ 6 ของโลกว่าจะสามารถจัดการกับการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน